-2.7 C
New York
วันศุกร์, ธันวาคม 27, 2024

Buy now

Google search engine

เช็ควิธีการ ต่อใบประกอบวิชาชีพครูออนไลน์ การต่อใบประกอบครูชั้นต้น ชั้นสูง ออนไลน์ ทำอย่างไร ใบประกอบวิชาชีพครู ชั้นต้น ชั้นสูง คืออะไร หาคำตอบที่นี่

เช็ควิธีการ ต่อใบประกอบวิชาชีพครูออนไลน์ การต่อใบประกอบครูชั้นต้น ชั้นสูง ออนไลน์ ทำอย่างไร ใบประกอบวิชาชีพครู ชั้นต้น ชั้นสูง คืออะไร หาคำตอบที่นี่

สวัสดีค่ะ ครูดีดอทคอม ขอแนะนำ ขั้นตอน หรือ วิธีการ ต่อใบประกอบวิชาชีพครูออนไลน์ การต่อใบประกอบครูชั้นต้น ชั้นสูง ออนไลน์ ว่าต้องทำอย่างไร ติดตามได้จาก บทความ ด้านล่างนี้ค่ะ

เช็ควิธีการ ต่อใบประกอบวิชาชีพครูออนไลน์ การต่อใบประกอบครูชั้นต้น ชั้นสูง ออนไลน์ ทำอย่างไร ใบประกอบวิชาชีพครู ชั้นต้น ชั้นสูง คืออะไร หาคำตอบที่นี่
เช็ควิธีการ ต่อใบประกอบวิชาชีพครูออนไลน์ การต่อใบประกอบครูชั้นต้น ชั้นสูง ออนไลน์ ทำอย่างไร ใบประกอบวิชาชีพครู ชั้นต้น ชั้นสูง คืออะไร หาคำตอบที่นี่

ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพในข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ พ.ศ. 2565 มี 4 ประเภท ดังนี้
(1) ใบอนุญาตปฏิบัติหน้าที่ครู ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูชั้นต้น และใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูชั้นสูง
(2) ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพผู้บริหารสถานศึกษา
(3) ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพผู้บริหารการศึกษา
(4) ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพศึกษานิเทศก์
ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ แบบใหม่ คลิกที่นี่

ทำอย่างไรจะได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูชั้นต้น (B-License)
1) ผู้ที่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู (ฉบับเดิม) เทียบเท่าใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูชั้นต้น สามารถถือใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู (ฉบับเดิม) ได้จนกว่าใบอนุญาตจะหมดอายุ หรือ
2) ผู้ที่สำเร็จการศึกษาในหลักสูตรปริญญาทางการศึกษาที่คุรุสภารับรองที่เข้าศึกษาตั้งแต่ปีการศึกษา 2562 และผ่านเกณฑ์การทดสอบและประเมินสมรรถนะทางวิชาชีพครูครบตามที่คุรุสภากำหนด

ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูชั้นสูง คืออะไร ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูชั้นสูง คือ ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพซึ่งคุรุสภาออกให้แก่ผู้มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูชั้นต้น และผ่านเกณฑ์การประเมินตามระดับคุณภาพของมาตรฐานในการประกอบวิชาชีพตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกรรมการคุรุสภากำหนด หรือผู้มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูและมีวิทยฐานะตั้งแต่ระดับชำนาญการหรือเทียบเท่าขึ้นไป ก่อนวันที่ข้อบังคับนี้ใช้บังคับ

ระเบียบว่าด้วยการขอรับและขอต่อใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ พ.ศ.2565 อ่านเพิ่มเติมที่นี่

ก่อนที่จะดำเนินการขอรับ หรือ ขอต่อใบประกอบครูชั้นต้น ชั้นสูง ออนไลน์ ท่านจะต้องเป็นสมาชิก ksp e-service เสียก่อน โดยวิธีการสมัครสมาชิก ให้เข้าไปที่ https://selfservice.ksp.or.th/ksp-esv/index.jbx แล้วทำการสมัครสมาชิก ตาม วิดีโอด้านล่างนี้

หลังจากที่ท่านสมัคร สมาชิก ksp e-service เพื่อขอต่อใบประกอบครูชั้นต้น ชั้นสูง ออนไลน์ เรียบร้อยแล้ว ให้เข้าสู่ระบบ ksp e-service ผ่าน ลิงก์ https://selfservice.ksp.or.th/ksp-esv/index.jbx กรอเลขบัตรประจำตัวประชาชน และรหัสผ่านที่ตั้งไว้ เมื่อเข้าสู่ระบบแล้ว จะปรากฏดังภาพด้านล่าง ให้เลือกเมนูใบอนุญาต และเมนูย่อย ขอต่ออายุใบอนุญาต (PBA License) และ เลือกได้เลยว่าจะขอต่อใบประกอบวิชาชีพครูชั้นต้น หรือ ชั้นสูง (วิทยฐานะชำนาญการขึ้นไป) ถ้าใครยังสงสัยว่าตนสามารถขอใบประกอบวิชาชีพครูชั้นต้น หรือ ชั้นสูง คลิกอ่านสรุปของคุรุสภาได้ที่นี่

เช็ควิธีการ ต่อใบประกอบวิชาชีพครูออนไลน์ การต่อใบประกอบครูชั้นต้น ชั้นสูง ออนไลน์ ทำอย่างไร ใบประกอบวิชาชีพครู ชั้นต้น ชั้นสูง คืออะไร หาคำตอบที่นี่
เช็ควิธีการ ต่อใบประกอบวิชาชีพครูออนไลน์ การต่อใบประกอบครูชั้นต้น ชั้นสูง ออนไลน์ ทำอย่างไร ใบประกอบวิชาชีพครู ชั้นต้น ชั้นสูง คืออะไร หาคำตอบที่นี่

เมื่อท่านทำตามขั้นตอนด้านบนแล้ว ท่านจะเข้าสู่ หน้า ค้นหากลุ่มวิชา เพื่อขอต่อใบประกอบครูชั้นต้น ชั้นสูง ออนไลน์ ให้ท่านกด ที่แว่นขยายเพื่อค้นหา วิชาเอก ของตน รายละเอียดเกี่ยวกับ กลุ่มวิชาที่ระบุในใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูชั้นต้น และใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูชั้นสูง พ.ศ. 2566 คลิกที่นี่ 

เช็ควิธีการ ต่อใบประกอบวิชาชีพครูออนไลน์ การต่อใบประกอบครูชั้นต้น ชั้นสูง ออนไลน์ ทำอย่างไร ใบประกอบวิชาชีพครู ชั้นต้น ชั้นสูง คืออะไร หาคำตอบที่นี่
เช็ควิธีการ ต่อใบประกอบวิชาชีพครูออนไลน์ การต่อใบประกอบครูชั้นต้น ชั้นสูง ออนไลน์ ทำอย่างไร ใบประกอบวิชาชีพครู ชั้นต้น ชั้นสูง คืออะไร หาคำตอบที่นี่

คุณสมบัติของผู้ขอต่ออายุใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูชั้นสูง (A)
1. มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูชั้นสูง หรือ มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูเดิมและมีวิทยฐานตั้งแต่ชำนาญการขึ้นไป (ก่อนวันที่ 15 มีนาคม 2566)
2. มีกิจกรรมพัฒนาตนเอง 3 กิจกรรม (ภายในระยะเวลา 5 ปี นับตั้งแต่ได้รับใบอนุญาต)

ในส่วนของการเพิ่มวุฒิการศึกษา ในขั้นตอนนี้คุณครูจะต้องเตรียม ทรานสคริปต์ และใบปริญญาบัตร เพื่อดูวันเข้าศึกษาและวันจบการศึกษา ซึ่งหากมีทั้งปริญญาตรีและปริญญาโท ให้กรอกข้อมูลทั้งสองอย่าง

เช็ควิธีการ ต่อใบประกอบวิชาชีพครูออนไลน์ การต่อใบประกอบครูชั้นต้น ชั้นสูง ออนไลน์ ทำอย่างไร ใบประกอบวิชาชีพครู ชั้นต้น ชั้นสูง คืออะไร หาคำตอบที่นี่

ผลการปฏิบัติงานตามมาตรฐานการปฏิบัติงาน คุณครูจะต้องกรอกรายละเอียดอย่างน้อย 3 กิจกรรม ซึ่งหากมีมากกว่า 3 ก็กรอกได้เลย วิธีการกรอกก็คือ เลือกที่ช่องหน้าเลขข้อได้เลย ดังภาพ

ต่อใบประกอบวิชาชีพครู ขั้นตอนการต่อใบประกอบวิชาชีพครูออนไลน์ วิธีการขอต่อใบประกอบวิชาชีพครู ผ่านระบบ KSP e-service

ส่วนของการรับรองคุณสมบัติ คุณครูเลือกที่รับรองคุณสมบัติแล้ว ใส่ชื่อผู้รับรองได้เลยค่ะ ซึ่งในส่วนนี้จะเป็นชื่อผู้บังคับบัญชา

ต่อใบประกอบวิชาชีพครู ขั้นตอนการต่อใบประกอบวิชาชีพครูออนไลน์ วิธีการขอต่อใบประกอบวิชาชีพครู ผ่านระบบ KSP e-service

ส่วนสุดท้ายคือการแนบหลักฐานประกอบการพิจารณาซึ่งเป็นส่วนที่สำคัญมาก คุณครูต้องทำการแนบไฟล์ pdf ตามข้อที่คุณครูทำการเลือก ในข้อสอง ผลการปฏิบัติงานตามมาตรฐานการปฏิบัติงาน โดยวิธีการแนบไฟล์ให้คลิกที่ปุ่มสีส้ม ทำการลากไฟล์มาวาง แล้วกดบันทึก ถ้าแนบไฟล์เรียบร้อยจะขึ้นปุ่มสีเขียว ซึ่งเราสามารถคลิกที่ปุ่มสีเขียวเพื่อตรวจสอบข้อมูลได้ ถ้าตรวจสอบเสร็จแล้วกดที่ บันทึกและส่งตรวจสอบ ได้เลย

ต่อใบประกอบวิชาชีพครู ขั้นตอนการต่อใบประกอบวิชาชีพครูออนไลน์ วิธีการขอต่อใบประกอบวิชาชีพครู ผ่านระบบ KSP e-service

ต่อใบประกอบวิชาชีพครู ขั้นตอนการต่อใบประกอบวิชาชีพครูออนไลน์ วิธีการขอต่อใบประกอบวิชาชีพครู ผ่านระบบ KSP e-service

ต่อใบประกอบวิชาชีพครู ขั้นตอนการต่อใบประกอบวิชาชีพครูออนไลน์ วิธีการขอต่อใบประกอบวิชาชีพครู ผ่านระบบ KSP e-service

หลังจากเสร็จกระบวนการต่างๆ ให้คุณครูไปคลิกที่ ตรวจสอบข้อมูล แล้วเลือก ตรวจสอบสถานะ จะปรากฏข้อมูลสถานะการต่อใบประกอบวิชาชีพ รอประมาณ 3 วันทำการ ให้คุณครูเข้าสู่ระบบมาใหม่ แล้วคลิกที่ปุ่มสีเขียวเพื่อปริ้นใบชำระเงิน ไปชำระเงินที่ 7-11 หลังจากชำระเงินเสร็จรอประมาณ 1-2 อาทิตย์ ก็จะสามารถปริ้นใบประกอบวิชาชีพครู ทางอิเล็กทรอนิกส์ได้เลย

หวังว่า การต่อใบประกอบวิชาชีพครู ขั้นตอนการต่อใบประกอบวิชาชีพครูออนไลน์ วิธีการขอต่อใบประกอบวิชาชีพครู ผ่านระบบ KSP e-service จะมีประโยชน์กับคุณครูทุกท่าน ขอขอบคุณที่มาของภาพระบบ จาก คุรุสภา

เรื่องราวที่น่าสนใจเพิ่มเติม พิมพ์ใบประกอบวิชาชีพครู ทำอย่างไร 4 ขั้นตอน การพิมพ์สำเนาใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู อิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบ KSP Self-Service   (สำหรับท่านที่อนุมัติแล้ว)

ต่อใบประกอบวิชาชีพครู ขั้นตอนการต่อใบประกอบวิชาชีพครูออนไลน์ วิธีการขอต่อใบประกอบวิชาชีพครู ผ่านระบบ KSP e-service

PBA License ใบประกอบวิชาชีพครูแบบใหม่ ระบบเปิดแล้ว ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู 3 Level PBA พ.ศ. 2565

วันครู 2567 ประวัติวันครูของไทย เพราะอะไรวันครูไทยจึงกำหนดให้ตรงกับวันที่ 16 มกราคม ของทุกปี

วันครู 2567 ประวัติวันครูของไทย เพราะอะไรวันครูไทยจึงกำหนดให้ตรงกับวันที่ 16 มกราคม ของทุกปี

วันครู 2567 ประวัติวันครูของไทย เพราะอะไรวันครูไทยจึงกำหนดให้ตรงกับวันที่ 16 มกราคม ของทุกปี
วันครู 2567 ประวัติวันครูของไทย เพราะอะไรวันครูไทยจึงกำหนดให้ตรงกับวันที่ 16 มกราคม ของทุกปี

วันครู 2567 ประวัติวันครูของไทย เพราะอะไรวันครูไทยจึงกำหนดให้ตรงกับวันที่ 16 มกราคม ของทุกปี เวียนมาถึงอีกครั้งหนึ่ง วันนี้เว็บไซต์ครูดีดอทคอมขอนำ ประวัติวันครู ซึ่งตรงกับ วันที่ 16 มกราคม ของทุกปี ว่ามีความหมายที่มาของวันครูอย่างไร รวมถึงทำไมต้องกำหนดให้วันที่ 16 มกราคมเป็นวันครูของประเทศไทย ท่านที่สนใจสามารถอ่านประวัติความเป็นมาของวันครูได้จากข้อมูลด้านล่างค่ะ

วันครูได้จัดให้มีขึ้นครั้งแรกเมื่อ 16 มกราคม พ.ศ. 2500 สืบเนื่องมาจากการ  ประกาศพระราชบัญญัติครู  ในราชกิจจานุเบกษา เมื่อ พ.ศ. 2488 ซึ่งระบุให้มีสภาในกระทรวงศึกษาธิการเรียกว่า คุรุสภาเป็นนิติบุคคลให้ครูทุกคนเป็นสมาชิกคุรุสภา โดยมีหน้าที่ในเรื่องของสถาบันวิชาชีพครูในขณะเดียวกันก็ทำหน้าที่ให้ความเห็นเรื่องนโยบายการศึกษาและวิชาการศึกษาทั่วไปแก่กระทรวงศึกษาธิการ ควบคุม จรรยาและวินัยของครูรักษาผลประโยชน์ ส่งเสริมฐานะของครู จัดสวัสดิการให้ครูและครอบครัว ได้รับความช่วยเหลือตามสมควร ส่งเสริมความรู้และความสามัคคีของครู

ด้วยเหตุนี้ในทุกปี คุรุสภาจะจัดให้มีการประชุมสามัญคุรุสภาประจำปี เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้แทนครูจากทั่วประเทศแถลงผลงานในรอบปีที่ผ่านมา และชักถามปัญหาข้อข้องใจต่างๆ เกี่ยวกับการดำเนินงานของคุรุสภาโดยมีคณะกรรมการอำนวยการคุรุสภาเป็นผู้ตอบข้อสงสัย สถานที่ ในการประชุมสมัยนั้นใช้หอประชุมสามัคยาจารย์ หอประชุมของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และในระยะหลังใช้หอประชุมคุรุสภา

ปี พ.ศ. 2499 ในที่ประชุมสามัญคุรุสภาประจำปี จอมพล ป. พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีและประธานกรรมการอำนวยการคุรุสภากิตติมศักดิ์ ได้กล่าวคำปราศรัยต่อที่ประชุมครูทั่วประเทศว่า

“ที่อยากเสนอในตอนนี้ก็คือว่า เนื่องจากผู้เป็นครูมีบุญคุณ เป็นผู้ให้แสงสว่างในชีวิตของเราทั้งหลาย ข้าพเจ้าคิดว่าวันครูควรมี สักวันหนึ่งสำหรับให้บรรดาลูกศิษย์ทั้งหลายได้แสดงความเคารพ สักการะต่อบรรดาครูผู้มีพระคุณทั้งหลาย เพราะเหตุว่าสำหรับ คนทั่วไปถ้าถึงวันตรุษ วันสงกรานต์ เราก็นำเอาอัฐิของผู้มีพระคุณบังเกิดเกล้ามาทำบุญ ทำทาน คนที่สองรองลงไปก็คือครูผู้เสียสละ ทั้งหลาย ข้าพเจ้าคิดว่าในโอกาสนี้จะขอฝากที่ประชุมไว้ด้วย ลองปรึกษาหารือกันในหลักการ ทุกคนคงจะไม่ขัดข้อง”

จากแนวความคิดนี้ กอปรกับความเห็นของครูที่แสดงออกทางสื่อมวลชนและอื่นๆ ล้วนเรียกร้องให้มีวันครูเพื่อให้เป็นวันแห่งการรำลึก ถึงความสำคัญของครูในฐานะที่เป็นผู้เสียสละ ประกอบคุณงามความดี เพื่อประโยชน์ของชาติและประชาชนเป็นอันมากในปีเดียวกันที่ประชุมคุรุสภาสามัญประจำปีจึงได้พิจารณาเรื่องนี้และมีมติเห็นควรให้มีวันครูเพื่อเสนอ คณะกรรมการอำนวยการต่อไป โดยได้เสนอหลักการว่า เพื่อจะได้ประกอบพิธีระลึกถึงคุณบูรพาจารย์ ส่งเสริมสามัคคีธรรมระหว่างครูและเพื่อส่งเสริม ความเข้าใจอันดีระหว่างครูกับประชาชน

การจัดงานวันครูได้จัดเป็นครั้งแรกเมื่อ 16 มกราคม พ.ศ. 2500 กระทรวงศึกษาธิการสั่งการให้นักเรียนและครูหยุดในวันดังกล่าวได้ ในส่วนกลางใช้สถานที่ของกรีฑาสถานแห่งชาติ  เป็นที่จัดงานวันครูนี้ได้กำหนดเป็นหลักการให้มีอนุสรณ์
งานวันครูไว้แก่อนุชนรุ่นหลังทุกปี อนุสรณ์ที่สำคัญคือ หนังสือประวัติครู หนังสือที่ระลึกวันครู และสิ่งก่อสร้างเป็นถาวรวัตถุ

การจัดงานวันครูได้ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงกิจกรรมให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมตลอดเวลา ในปัจจุบันได้จัดรูปแบบ การจัดงานวันครูจะมีกิจกรรม 4 ประเภทหลักดังนี

  • กิจกรรมทางศาสนา
  • พิธีรำลึกถึงพระคุณบูรพาจารย์ ประกอบด้วยพิธีปฏิญาณตน การกล่าวคำระลึกถึงพระคุณบูรพาจารย์
  • การมอบโล่  และเกียรติบัตร แก่ครูที่มีผลงานดีเด่น ในรอบปีการศึกษา
  • กิจกรรมเพื่อความสามัคคีระหว่างผู้ประกอบอาชีพครู ส่วนมากเป็นการแข่งขันกีฬาหรือการจัดงานรื่นเริงในตอนเย็น
วันครู 2567 ประวัติวันครูของไทย เพราะอะไรวันครูไทยจึงกำหนดให้ตรงกับวันที่ 16 มกราคม ของทุกปี
วันครู 2567 ประวัติวันครูของไทย เพราะอะไรวันครูไทยจึงกำหนดให้ตรงกับวันที่ 16 มกราคม ของทุกปี

ความหมายของวันครู

ครู หมายถึง ผู้สั่งสอน ผู้ให้วิชาและถ่ายทอดความรู้ การอ่านเขียน เป็นผู้สร้างสรรค์ภูมิปัญญา แก่ลูกศิษย์ และพัฒนาทรัพยากรมนุษย์เพื่อนำไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองของสังคมและประเทศชาติ รวมไปถึงการให้ความรู้และแนะนำในการใช้ชีวิตประจำวันและการทำงานสำหรับวันครูนั้น ถือว่าวันพฤหัสบดี คือ วันครู ตามความเชื่อโดยทั่วไปของไทย

วันครูของประเทศไทย

วันครูได้จัดให้มีขึ้นครั้งแรกเมื่อ 16 มกราคม พ.ศ.2500 คุณครู เป็นผู้ที่มีพระคุณอันยิ่งใหญ่ต่อศิษย์ทั้งหลาย ถัดมาจากคุณพ่อคุณแม่ เป็นวันที่ผองศิษย์ทั้งหลายได้ร่วมใจพร้อมใจกันมานอบน้อมเคารพคุณครู ตั้งแต่โบราณ ครูมีหน้าที่ในการแนะ คือว่าการสอนให้ความรู้แก่ศิษย์ และครูมีหน้าที่ในการนำคือ การทำให้ดู คือประพฤติตนให้เป็นแบบอย่างแก่ศิษย์ ซึ่งคุณครูจะต้องเป็นผู้สอนและก็ทำตนให้เป็นแบบอย่างทีดีให้กับศิษย์ด้วยครูเป็นปูชนียบุคคลที่ศิษย์ควรจะเคารพบูชา และครูเปรียบเสมือนเรือจ้างที่จะคอยส่งลูกศิษย์ข้ามฝั่ง นั่นก็หมายถึง การอบรม สั่งสอนให้ศิษย์มีความรู้และวิชา รวมถึงการเป็นคนดีของสังคมอีกด้วย เพื่อเป็นการระลึกถึงพระคุณของคุณครู จึงได้จัดให้วันที่16 มกราคม เป็นวันครู และเป็นวันหยุดของสถานศึกษา ซึ่งจะได้เป็นการให้ลูกศิษย์กลับไปแสดงความเคารพและตอบแทนผู้มีพระคุณนั่นเอง

วันครูของ ต่างประเทศ

วันครูไม่ได้มีเฉพาะในประเทศไทย แต่วันครูแห่งชาติ มีด้วยกันทั้งหมดทั้งหมด 76 ประเทศทั่วโลก โรงเรียนทั่วทั้งประเทศหลายแห่งจะทำการเฉลิมฉลองวันครูซึ่งเป็นวันศุกร์ก่อนวันหยุดด้วย”คอนเสิร์ต”และการพบปะสังสรรค์ และนักเรียนจะมอบของขวัญให้แก่ครู อย่างเช่นดอกไม้และช็อคโกแลต ในวันหยุดของอาชีพตัวเอง คุณครูจำนวนมากจะร่วมฉลองกับครอบครัวและครอบครัวของพวกเขา ซึ่งวันครูทั่วโลกจะไม่ตรงกัน และบางประเทศที่ให้ความสำคัญกับวันครู ก็จะสั่งปิดโรงเรียน ส่วนบางประเทศก็ยังคงเปิดสอนตามปกติ

วันที่ใช้จัดงานวันครู

วันครูของประเทศไทย คือวันที่ 16 มกราคม ของทุกปี ซึ่งเป็นวันหยุดของสถานศึกษา และเปิดโอกาสใหนักเรียนได้กลับมาแสดงความเคารพและพบปะกับคุณครูผู้ที่เคยสอนในอดีต

ประวัติความเป็นมาของวันครู

วันที่ 16 มกราคม ของทุกปีได้กำหนดให้เป็น “วันครูแห่งชาติ” นักเรียนและครูหยุดการเรียนการสอน เพื่อเป็นการรำลึกถึงความสำคัญของครูในฐานะที่เป็นผู้เสียสละเพื่อประเทศชาติ ครู เป็นผู้มีบุญคุณเป็นผู้ให้แสงสว่างในชีวิตของเราทั้งหลาย วันครูควรมีสักวันหนึ่งสำหรับให้บันดาลูกศิษย์ทั้งหลาย ได้แสดงความเคารพสักการะต่อบรรดาครูผู้มีพระคุณ

เพื่อเป็นวันแห่งการรำลึก ถึงความสำคัญของครูในฐานะที่เป็นผู้เสียสละเพื่อประโยชน์ของชาติและประชาชนทั้งประเทศ เพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์สำคัญต่างๆ เช่น วันครู ของไทยได้จัดให้มีขึ้นครั้งแรกเมื่อ เมื่อ 16 มกราคม พ.ศ.2500 เพื่อบรรดาลูกศิษย์ได้แสดงความเคารพ สักการะต่อครูผู้มีพระคุณ การประกาศพระราชบัญญัติครูในราชกิจจานุเบกษาเมื่อปี พ.ศ.2488 ได้ระบุให้มีสภาในกระทรวงศึกษาธิการเรียกว่า คุรุสภาเป็นนิติบุคคลให้ครูทุกคนเป็นสมาชิกคุรุสภา มีหน้าที่ในเรื่องของสถาบันวิชาชีพครู ให้ความเห็นเรื่องนโยบายการศึกษา และวิชาการศึกษาทั่วไปแก่กระทรวงศึกษา รักษาผลประโยชน์ ส่งเสริมฐานะของครู และมีการจัดสวัสดิการให้ครูและครอบครัวได้รับความช่วยเหลือตามสมควร

ประกอบกับมีคุณครูบางกลุ่มที่มีการเรียกร้องให้มีวันครูเพื่อให้เป็นวันแห่งการรำลึกถึงความสำคัญของครู ในฐานะที่เป็นผู้เสียสละ และประกอบคุณงามความดีเพื่อประโยชน์ของชาติและประชาชน ซึ่งทำให้ที่ประชุมคุรุสภาสามัญประจำปีจึงได้พิจารณาและมีมติเห็น ควรให้มีวันครู เพื่อจะได้ประกอบพิธีระลึกถึงคุณบูรพาจารย์ ส่งเสริมสามัคคีธรรมระหว่างครูและเพื่อส่งเสริมความเข้าใจอันดีระหว่าง ครูกับประชาชน

จนกระทั่งเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2499 ทางคณะรัฐมนตรีได้มีมติ ให้วันที่ 16 มกราคมของทุกปีเป็น “วันครู”และให้กระทรวงศึกษาธิการสั่งการให้นักเรียนและครูหยุดในวันดังกล่าว

กิจกรรมที่นิยมทำกันในวันครู

16 มกราคม ของทุกปี ถือเป็นวันครู เป็นวันหยุดของครูที่จะได้พักเหนื่อย จากวันที่สอนมาตลอด เป็นวันหยุดในอาชีพของตัวเอง ที่จะทำให้ระลึกถึงการเรียนการสอนแก่ศิษย์ทั้งหลาย จุดประสงค์ในการมีวันครู เพื่อให้นักเรียนได้ระลึกถึงพระคุณของครูบาอาจารย์ แม่พิมพ์ของชาติที่ได้อบรมสั่งสอน ให้เราเป็นคนดีรู้วิชา เพราะฉะนั้นครูจึงเป็นบุคคลที่สำคัญอย่างมาก ทั้งให้ความรู้ การศึกษา และประสบการณ์ รวมทั้งเป็นอาชีพที่ถือว่ามีความเสียสละเพื่อส่วนรวมอย่างมาก กิจกรรมวันครู แม้จะไม่ยิ่งใหญ่อลังการ แต่ก็ทำให้ลูกศิษย์ที่ยังนึกถึงมาแสดงความเคารพและทำกิจกรรมร่วมกัน

พิธีไหว้ครู

เนื่องจากวันครูเป็นวันที่โรงเรียนหยุดทั้งประเทศ พิธีไหว้ครู ซึ่งสถาบันการศึกษาแต่ละแห่ง มักเลือกเอาวันพฤหัส ในช่วงเริ่มต้นของการเปิดภาคเรียน ตามความเชื่อโดยทั่วไปของไทย ซึ่งถือว่าวันพฤหัสบดี คือวันครู สำหรับพิธีไหว้ครูนั้น นักเรียนแต่ละห้องจะจัดทำพานดอกไม้ และธูปเทียน ที่จัดทำขึ้นเพื่อน้อมระลึกถึงพระคุณครู โดยการนำ ดอกไม้ ธูป เทียน มากราบไหว้สักการะครู

กิจกรรมทางศาสนา

การทำบุญตักบาตร เข้าวัด ฟังธรรมเป็นเรื่อง ที่ส่วนใหญ่คุณครูจะปฏิบัติ แม้กิจกรรมวันครู จะถูกปรับปรุงกิจกรรม เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมไทยตลอดเวลา แต่การเข้าวัดเพื่อทำจิตใจให้สะอาด และทำบุญ จะช่วยให้มีสติในการดำเนินชีวิตมากขึ้น ซึ่งตามต่างจังหวัดอาจทำพิธีการทางศาสนาที่คุณครูร่วมกับชาวบ้าน

บำเพ็ญประโยชน์เพื่อสาธารณะ

กิจกรรมแต่ละโรงเรียนไม่เหมือนกัน ซึ่งบางโรงเรียนก็จัดกิจกรรม มีพิธีปฏิญาณตน รวมไปถึงการกล่าวระลึกถึงพระคุณของครู ซึ่งจะรวมทั้งศิษย์เก่า ศิษย์ใหม่ มาในวันเดียวกัน ซึ่งเป็นการทำกิจกรรมร่วมกัน การจัด กิจกรรมจัดเพื่อความสามัคคีระหว่างผู้ปกครองกับคุณครู ในวันครูนั้น อาจจะเป็นการแข่งขันกีฬาเพื่อความสามัคคี หรืองานเฉลิมฉลองต่างๆ ซึ่งจะช่วยสานสัมพันธ์ที่ดี ระหว่างผู้ปกครองและครู รวมถึงเด็กๆ อีกด้วย

ฟังพิธีการจากส่วนกลาง

มีการถ่ายทอดสดพิธีการงานวันครู ส่วนกลาง ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (สทท.) และสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย ตั้งแต่เวลา 09.00 น.

แนวทางการส่งเสริมกิจกรรมวันครู

กิจกรรมต่างๆ ที่เกิดขึ้นในวันครู ต่างทำเพื่อน้อมรำลึกถึงพระคุณที่คุณครู ได้อบรม สั่งสอน และเป็นผู้ให้ความรู้ เป็นผู้ให้แสงสว่างนำทางส่องชีวิต ทำให้บรรดาลูกศิษย์ทั้งหลายได้แสดงความเคารพ สักการะต่อบรรดาครูผู้มีพระคุณ ซึ่งการส่งเสริมแนวทางการทำกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้วันครูได้สืบยาวนานตลอดไป จะเป็นการดีที่เป็นกำลังและแรงใจให้คุณครู ได้มีกำลังใจที่จะสอนต่อไป

พิธีรำลึกถึงพระคุณบูรพาจารย์

การส่งเสริมแนวทางที่จะทำให้กิจกรรมวันครูสืบต่อไป ประกอบด้วยพิธีปฏิญาณตน การกล่าวคำระลึกถึงพระคุณบูรพาจารย์
กิจกรรมเพื่อความสามัคคีระหว่างผู้ประกอบอาชีพครู ส่วนมากเป็นการแข่งขันกีฬาหรือการจัดงานรื่นเริงในตอนเย็น

กิจกรรมทางวิชาการ

เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่เป็นการส่งเสริมวันครูสำหรับการจัดกิจกรรมทางวิชาการในช่วงสัปดาห์ “วันครู” เพื่อสร้างจิตวิญญาณความเป็นครูและกิจกรรมการพัฒนาครู ซึ่งเด็กๆ จะได้เห็นความเหนื่อยยาก ลำบาก กว่าจะทำให้เด็กแต่บะคนประสบความสำเร็จ

มอบโล่ประกาศเกียรติคุณครูดีเด่น

เป็นการจัดกิจกรรม ที่มีพิธีมอบโล่ประกาศเกียรติคุณ “ครูดีไม่มีอบายมุข” อาจจัดเป็นงานนิทรรศการ งานวันครูและเปิดประชุมทางวิชาการ การจัดอภิปราย เกี่ยวกับครู การนำเสนอผลงานเกี่ยวกับการปฏิรูปการเรียนรู้ และมอบรางวัลแก้ผู้ทำคุณประโยชน์ให้แก่การศึกษาและได้รับคัดเลือกให้ได้รับรางวัล

พิธีไหว้ครู

การระลึกนึกถึงพระคุณของคุณครู การไหว้ครูคือการแสดงความเคารพระลึกถึงพระคุณของครูด้วย ดอกไม้ ธูป เทียน มากราบไหว้สักการะครู การแสดงความเคารพบูชาครูบาอาจารย์ ดีที่สุดคือปฏิบัติบูชา คือทำตามคำสอนของท่าน ครูมีหน้าที่แนะนำสิ่งดีๆ อบรมสั่งสอน หน้าที่ของศิษย์เองก็จะต้องตั้งใจประพฤติปฏิบัติตามเรียกว่าปฏิบัติ อันนี้คือการปฏิบัติบูชาที่ดีที่สุด

ในทางพระพุทธศาสนาของเรานี่ ครูผู้ยิ่งใหญ่ของเราคือพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เราจึงควรศึกษาของดีๆ ที่มีอยู่ในพระพุทธ ศาสนา เพื่อนำมาใช้ให้เป็นประโยชน์แก่สังคมอย่างกว้างขวางและนำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน รวมกับคำสอนของคุณครู เพียงเท่านี้ก็จะดำเนินชีวิตไปอย่างมีความสุขด้วยสติแล้ว

อ้างอิงจาก   กระทรวงศึกษาธิการ

เรื่องราวที่น่าสนใจ : คู่มือการสอน อ่าน เขียน โดยการ แจกลูกสะกดคํา สำหรับนักเรียนชั้น ป.1 ป.2 ป.3 จัดทำโดย สพฐ.

คู่มือการสอน อ่าน เขียน โดยการ แจกลูกสะกดคํา สำหรับนักเรียนชั้น ป.1 ป.2 ป.3 จัดทำโดย สพฐ.

คู่มือการสอน อ่าน เขียน โดยการ แจกลูกสะกดคํา สำหรับนักเรียนชั้น ป.1 ป.2 ป.3 จัดทำโดย สพฐ.

คู่มือการสอน อ่าน เขียน โดยการ แจกลูกสะกดคํา สำหรับนักเรียนชั้น ป.1 ป.2 ป.3  จัดทำโดย สพฐ.
คู่มือการสอน อ่าน เขียน โดยการ แจกลูกสะกดคํา สำหรับนักเรียนชั้น ป.1 ป.2 ป.3 จัดทำโดย สพฐ.

สวัสดีครับวันนี้เว็บไซต์ครูดี มีเรื่องราวเกี่ยวกับคู่มือการสอน อ่าน เขียน โดยการ แจกลูกสะกดคํา สำหรับนักเรียนชั้น ป.1 ป.2 ป.3 จัดทำโดย สพฐ. มาฝากทุกท่านโดยมีรายละเอียดดังนี้

“คู่มือการสอนอ่านเขียนโดยการแจกลูกสะกดคํา” เล่มนี้จัดทําขึ้นเพื่อเป็นแนวทางจัดการเรียนรู้สําหรับครูผู้สอนภาษาไทยใช้แก้ปัญหานักเรียนที่อ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ด้วยวิธีการสอนแบบแจกลูกสะกดคํา

ซึ่งเป็นวิธีการสอนที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่าเป็นวิธีการสอนที่สร้างความเข้าใจทางภาษาไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพในการทําให้ผู้เรียนอ่านออกเขียนได้การจัดทํา“คู่มือการสอนอ่านเขียนโดยการแจกลูกสะกดคํา”
ได้มีการศึกษาค้นคว้าส่วนที่เป็นสาระความรู้จากหนังสือและตําราทางภาษาไทยสําหรับแนวทางการจัดการเรียนรู้และการวัดและประเมินผลจัดทําขึ้นโดยผู้ทรงคุณวุฒิทางด้านการสอนภาษาไทยและด้านการวัดและประเมินผลจากสถาบันอุดมศึกษาศึกษานิเทศก์ที่รับผิดชอบภาษาไทย ครูผู้สอนภาษาไทยและนักวิชาการศึกษาที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญในการจัดการเรียนการสอนภาษาไทย

เรื่องที่น่าสนใจ : รายชื่อข้าราชการพ้นจากราชการเนื่องจากอายุครบหกสิบปีบริบูรณ์ เมื่อสิ้นปีงบประมาณ พ.ศ.2566 รายชื่อครู สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ

และการวัดและประเมินผลซึ่งครูผู้สอนหรือผู้ที่สนใจสามารถนําคู่มือนี้ไปใช้เป็นแนวทางการสอนอ่านเขียนภาษาไทย
พัฒนาวิชาชีพหรือพัฒนาตนเองในด้านการสอนแก่นักเรียนในวัยเริ่มเรียนและซ่อมเสริมนักเรียนที่มีปัญหาอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้โดยสามารถนําไปปรับใช้ให้เหมาะสมกับบริบทของตนเองได้เป็นอย่างดีในโอกาสนี้ขอขอบคุณผู้ทรงคุณวุฒิคณะทํางานและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องที่ได้ร่วมจัดทําและให้ข้อเสนอแนะในการจัดทําหนังสือเล่มนี้และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า“คู่มือการสอนอ่านเขียนโดยการแจกลูกสะกดคํา”นี้จะเป็นแนวทางในการพัฒนาการอ่านการเขียนของนักเรียน
เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับผู้เรียนเป็นสําคัญหากมีข้อเสนอแนะประการใดโปรดแจ้งสํา นักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานเพื่อเป็นข้อมูลการพัฒนาต่อไป

>>ดาวน์โหลดไฟล์เอกสาร คู่มือการสอน อ่าน เขียน โดยการ แจกลูกสะกดคํา ที่นี่<<

ที่มา : สถาบันภาษาไทย สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน 

รายชื่อข้าราชการพ้นจากราชการเนื่องจากอายุครบหกสิบปีบริบูรณ์ เมื่อสิ้นปีงบประมาณ พ.ศ.2566 รายชื่อครู สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ

รายชื่อข้าราชการพ้นจากราชการเนื่องจากอายุครบหกสิบปีบริบูรณ์ เมื่อสิ้นปีงบประมาณ พ.ศ.2566 รายชื่อครูเกษียณ สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ

รายชื่อข้าราชการพ้นจากราชการเนื่องจากอายุครบหกสิบปีบริบูรณ์ เมื่อสิ้นปีงบประมาณ พ.ศ.2566 รายชื่อครู สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ
รายชื่อข้าราชการพ้นจากราชการเนื่องจากอายุครบหกสิบปีบริบูรณ์ เมื่อสิ้นปีงบประมาณ พ.ศ.2566 รายชื่อครู สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ

ด้วยข้าราชการพลเรือนสามัญ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งมีอายุครบหกสิบปีบริบูรณ์ต้องพ้นจากราชการเพราะครบเกษียณอายุตามกฎหมายว่าด้วยบำเหน็จบำนาญ ข้าราชการ เมื่อสิ้นปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๙ แห่งพระราชบัญญัติบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ. ๒๔๙๔ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (ฉบับที่ ๒๕) พ.ศ. ๒๕๕๑ พระราชบัญญัติ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ. ๒๕๓๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา ๑๐๗ (๒) และมาตรา ๑๓๒ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. ๒๕๕๑ มาตรา ๑๐๗ (๒) แห่งพระราชบัญญัติ ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. ๒๕๔๗ ประกอบกับมาตรา ๒๓ และมาตรา ๒๔ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. ๒๕๔๖ จึงประกาศรายชื่อข้าราชการ ต้องพันจากราชการเนื่องจากมีอายุครบหกสิบปีบริบูรณ์ในสังกัตกระทรวงศึกษาธิการ มาเพื่อทราบโดยทั่วกัน ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๖ เป็นต้นไปดังรายชื่อท้ายประกาศนี้

เรื่องน่าสนใจ : คู่มือการดำเนินการสอบแข่งขัน ตำแหน่งครูผู้ช่วย สังกัดสพฐ. ปีพ.ศ.2566 

ประกาศ ณ วันที่ 12  พฤษภาคม พ.ศ. 2566

ดาวน์โหลดไฟล์ทั้งหมด 526 หน้า

รายชื่อข้าราชการพ้นจากราชการเนื่องจากอายุครบหกสิบปีบริบูรณ์ เมื่อสิ้นปีงบประมาณ พ.ศ.2566 รายชื่อครู สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ
รายชื่อข้าราชการพ้นจากราชการเนื่องจากอายุครบหกสิบปีบริบูรณ์ เมื่อสิ้นปีงบประมาณ พ.ศ.2566 รายชื่อครู สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ

ดาวน์โหลดไฟล์ทั้งหมด

ขอบคุณที่มาจาก : ประกาศ-ศธ.-ข้าราชการเกษียณ-พ.ศ.-2566

คู่มือสอบครูผู้ช่วย 66 คู่มือการดำเนินการสอบแข่งขัน ตำแหน่งครูผู้ช่วย สังกัดสพฐ. ปีพ.ศ.2566 ดาวน์โหลดที่นี่

คู่มือสอบครูผู้ช่วย 66 คู่มือการดำเนินการสอบแข่งขัน ตำแหน่งครูผู้ช่วย สังกัดสพฐ. ปีพ.ศ.2566 ดาวน์โหลดที่นี่

สวัสดีค่ะ วันนี้ทีมงาน ครูดีดอทคอม มีเรื่องราวเกี่ยวกับ คู่มือสอบครูผู้ช่วย 66 มาให้ทุกท่านได้ติดตาม โดยท่านสามารถดาวน์โหลด คู่มือการดำเนินการสอบแข่งขัน ตำแหน่งครูผู้ช่วย สังกัดสพฐ. ปีพ.ศ.2566 ตามรายละเอียด ด่านล่างนี้ค่ะ

คู่มือสอบครูผู้ช่วย 66 คู่มือการดำเนินการสอบแข่งขัน ตำแหน่งครูผู้ช่วย สังกัดสพฐ. ปีพ.ศ.2566 ดาวน์โหลดที่นี่

ตามที่ก.ค.ศ. ได้กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย สังกัดสำนักงาน
คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ตามหนังสือสำนักงาน ก.ค.ศ. ด่วนที่สุด ที่ ศธ 0206.6/ว 14 ลงวันที่ 1 พฤษภาคม 2566 ประกอบกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานได้แจ้งกำหนดการสอบแข่งขันให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา และสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษทราบและดำเนินการนั้น

เพื่อให้การดำเนินการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษา
ขั้นพื้นฐาน ปี พ.ศ. 2566 เป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีประสิทธิภาพ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ก.ค.ศ. กำหนด สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานจึงได้จัดทำคู่มือการดำเนินการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปี พ.ศ.2566 สำหรับผู้ดำเนินการสอบแข่งขันใช้เป็นแนวทางในการดำเนินการสอบ

สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานหวังเป็นอย่างยิ่งว่าคู่มือเล่มนี้จะเป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติงานตามบทบาทหน้าที่ของหน่วยงานและบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วยให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล

ดาวน์โหลดคู่มือการดำเนินการสอบแข่งขัน ตำแหน่งครูผู้ช่วย สังกัดสพฐ. ปีพ.ศ.2566 คลิกที่นี่

คู่มือสอบครูผู้ช่วย 66 คู่มือการดำเนินการสอบแข่งขัน ตำแหน่งครูผู้ช่วย สังกัดสพฐ. ปีพ.ศ.2566 ดาวน์โหลดที่นี่

คู่มือสอบครูผู้ช่วย 66 คู่มือการดำเนินการสอบแข่งขัน ตำแหน่งครูผู้ช่วย สังกัดสพฐ. ปีพ.ศ.2566 ดาวน์โหลดที่นี่

ดาวน์โหลดคู่มือการดำเนินการสอบแข่งขัน ตำแหน่งครูผู้ช่วย สังกัดสพฐ. ปีพ.ศ.2566 คลิกที่นี่

ขอบคุณเนื้อหาจาก สพฐ.

เรื่องราวที่เกี่ยวข้อง รวมลิงก์ สมัครสอบครูผู้ช่วย 66 สังกัด สพฐ. แต่ละเขตพื้นที่จะ ประกาศรับสมัครสอบครูผู้ช่วย 2566 รอบทั่วไป ภายใน 24 พฤษภาคม 2566 นี้

ดาวน์โหลดที่นี่ แบบบันทึกการอ่าน ระดับ อนุบาล ประถมศึกษาตอนต้น ประถมศึกษาตอนปลาย มัธยมศึกษาตอนต้น แบบบันทึกรักการอ่าน โดย สพฐ.

ดาวน์โหลดที่นี่ แบบบันทึกการอ่าน ระดับ อนุบาล ประถมศึกษาตอนต้น ประถมศึกษาตอนปลาย มัธยมศึกษาตอนต้น แบบบันทึกรักการอ่าน โดย สพฐ.

วันนี้ ครูดีดอทคอม มีแบบบันทึกรักการอ่าน โดย สพฐ.เป็น แบบบันทึกการอ่าน ระดับ อนุบาล ประถมศึกษาตอนต้น ประถมศึกษาตอนปลาย มัธยมศึกษาตอนต้น ให้คุณครู ได้ ดาวน์โหลด ไว้ใช้กันค่ะ

ดาวน์โหลดที่นี่ แบบบันทึกการอ่าน ระดับ อนุบาล ประถมศึกษาตอนต้น ประถมศึกษาตอนปลาย มัธยมศึกษาตอนต้น แบบบันทึกรักการอ่าน โดย สพฐ.
ดาวน์โหลดที่นี่ แบบบันทึกการอ่าน ระดับ อนุบาล ประถมศึกษาตอนต้น ประถมศึกษาตอนปลาย มัธยมศึกษาตอนต้น แบบบันทึกรักการอ่าน โดย สพฐ.

การอ่าน หมายถึง การแปลความหมายของตัวอักษรที่อ่านออกมาเป็นความรู้ความคิด และเกิดความเข้าใจเรื่องราวที่อ่านตรงกับเรื่อราวที่ผู้เขียนเขียน ผู้อ่านสามารถนำความรู้ ความคิด หรือสาระจากเรื่องราวที่อ่านไปใช้ให้เกิดประโยชน์ได้ การอ่านจึงมีความสำคัญ ดังนี้
1) การอ่านเป็นเครื่องมือในการแสวงหาความรู้ โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในวัยศึกษาเล่าเรียน จำเป็นต้องอ่านหนังสือเพื่อการศึกษาหาความรู้ด้านต่าง ๆ
2) การอ่านเป็นเครื่องมือช่วยให้ประสบความสำเร็จในการประกอบอาชีพ เพราะสามารถนำความรู้ที่ได้จากการอ่านไปพัฒนางานของตนได้
3) การอ่านเป็นเครื่องมือสืบทอดทางวัฒนธรรมของคนรุ่นต่อ ๆ ไป
4) การอ่านเป็นวิธีการส่งเสริมให้คนมีความคิดอ่านและฉลาดรอบรู้ เพราะประสบการณ์ที่ได้จากการอ่านเมื่อเก็บสะสมเพิ่มพูนนานวันเข้า ก็จะทำให้เกิดความคิด เกิดสติปัญญา เป็นคนฉลาดรอบรู้ได้
5) การอ่านเป็นกิจกรรมที่ก่อให้เกิดความเพลิดเพลินบันเทิงใจ เป็นวิธีหนึ่งในการแสวงหาความสุขให้กับตนเองที่ง่ายที่สุด และได้ประโยชน์คุ้มค่าที่สุด
6) การอ่านเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิต ทำให้เป็นคนที่สมบูรณ์ทั้งด้านจิตใจและบุคลิกภาพ เพราะเมื่ออ่านมากย่อมรู้มาก สามารถนำความรู้ไปใช่ในการดำรงชีวิตได้อย่างมีความสุข
7) การอ่านเป็นเครื่องมือในการพัฒนาระบบการเมือง การปกครอง ศาสนา ประวัติศาสตร์ และสังคม
8) การอ่านเป็นวิธีการหนึ่งในการพัฒนาระบบการสื่อสารและการใช้เครื่องมือทางอิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ

การเขียน หมายถึง การถ่ายทอดความรู้ ความรู้สึกนึกคิด เรื่องราว ตลอดจนประสบการณ์ต่างๆไปสู้ผู้อื่นโดยใช้ตัวอักษรเป็นเครื่องมือในการถ่ายทอด การเขียนเป็นวิธีการสื่อสารที่สำคัญในการถ่ายทอดความรู้ ความคิด และประสบการณ์ เพื่อสื่อไปยังผู้รับได้อย่างกว้างไกล นอกจากนั้นการเขียนยังมีคุณค่าในการบันทึกเป็นข้อมูลหลักฐานให้ศึกษาได้ยาวนาน ผู้เขียนจึงจำเป็นต้องใช้หลักในการเขียน ดังต่อไปนี้
1. มีความถูกต้อง คือ ข้อมูลถูกต้อง ใช้ภาษาได้ถูกต้องเหมาะสมตามกาลเทศะ
2. มีความชัดเจน คือ ใช้คำที่มีความหมายชัดเจน รวมถึงประโยคและถ้อยคำสำนวน เพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจได้ตรงตามจุดประสงค์
3. มีความกระชับและเรียบง่าย คือ รู้จักเลือกใช้ถ้อยคำธรรมดาเข้าใจง่าย ไม่ฟุ่มเฟือย เพื่อให้ได้ใจความชัดเจน กระชับ ไม่ทำให้ผู้อ่านเกิดความเบื่อหน่าย
4. มีความประทับใจ โดยการใช้คำให้เกิดภาพพจน์ อารมณ์และความรู้สึกประทับใจ มีความหมายลึกซึ้งกินใจ ชวนติดตามให้อ่าน
5. มีความไพเราะทางภาษา คือ ใช้ภาษาสุภาพ มีความประณีตทั้งสำนวนภาษาและลักษณะเนื้อหา อ่านแล้วไม่รู้สึกขัดเขิน
6. มีความรับผิดชอบ คือ ต้องแสดงความคิดเห็นอย่างสมเหตุสมผล มุ่งให้เกิดความรู้และทัศนคติอันเป็นประโยชน์แก่ผู้อื่น

แบบบันทึกการอ่าน จึงเป็นการรวม ทักษะการอ่าน และ การเขียน เข้าด้วยกัน โดยแยกให้ดาวน์โหลดเป็น ระดับ อนุบาล ประถมศึกษาตอนต้น ประถมศึกษาตอนปลาย มัธยมศึกษาตอนต้น ดังนี้

ดาวน์โหลดที่นี่ บันทึกการอ่าน อนุบาล ระดับปฐมวัย 
ดาวน์โหลดที่นี่ บันทึกการอ่าน ป.1-3 ระดับประถมศึกษาตอนต้น 
ดาวน์โหลดที่นี่ บันทึกการอ่าน ป.4-6 ระดับประถมศึกษาตอนปลาย 
ดาวน์โหลดที่นี่ บันทึกการอ่าน ม.1-3 ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น 

ตัวอย่างการบันทึกการอ่าน คลิกที่นี่

ขอบคุณเนื้อหาจาก สพฐ.

เรื่องราวที่น่าสนใจเพิ่มเติม แบบฝึกหัดคณิตศาสตร์ ระดับประถมศึกษา แบบฝึกคิดเลขเร็ว ระดับชั้น ประถมศึกษาปีที่ 1 – 6 รูปเล่ม คณิตคิดเร็ว สวยงาม ดาวน์โหลดไฟล์ pdf ได้ที่นี่

ตัวอย่าง เอกสารประจำชั้นเรียน อนุบาล ระดับปฐมวัย แบบฟอร์มเอกสารประจำชั้นเรียนตามมาตรฐาน การศึกษาปฐมวัย ไฟล์ word

รวมลิงก์ สมัครสอบครูผู้ช่วย 66 สังกัด สพฐ. แต่ละเขตพื้นที่จะ ประกาศรับสมัครสอบครูผู้ช่วย 2566 รอบทั่วไป ภายใน 24 พฤษภาคม 2566 นี้

รวมลิงก์ สมัครสอบครูผู้ช่วย 66 สังกัด สพฐ. แต่ละเขตพื้นที่จะ ประกาศรับสมัครสอบครูผู้ช่วย 2566 รอบทั่วไป ภายใน 24 พฤษภาคม 2566 นี้

สพฐ. มีหนังสือ ด่วนที่สุด ที่ ศธ 04009/ว 2335 ลงวันที่ 9 พฤษภาคม 2566 ให้แต่ละเขตพื้นที่การศึกษา ออกประกาศรับ สมัครสอบครูผู้ช่วย 66 รอบทั่วไป ภายใน 24 พฤษภาคม 2566 นี้

รวมลิงก์ สมัครสอบครูผู้ช่วย 66 สังกัด สพฐ. แต่ละเขตพื้นที่จะ ประกาศรับสมัครสอบครูผู้ช่วย 2566 รอบทั่วไป ภายใน 24 พฤษภาคม 2566 นี้
รวมลิงก์ สมัครสอบครูผู้ช่วย 66 สังกัด สพฐ. แต่ละเขตพื้นที่จะ ประกาศรับสมัครสอบครูผู้ช่วย 2566 รอบทั่วไป ภายใน 24 พฤษภาคม 2566 นี้

ประกาศรับ สมัครสอบครูผู้ช่วย 66 รอบทั่วไป สพฐ. มีหนังสือ ด่วนที่สุด ที่ ศธ 04009/ว 2335 ลงวันที่ 9 พฤษภาคม 2566 ให้แต่ละเขตพื้นที่การศึกษา ออกประกาศรับสมัครสอบครูผู้ช่วย 2566 ภายใน 24 พฤษภาคม 2566 นี้

กําหนดการและปฏิทินการสอบครูผู้ช่วย 66 รอบทั่วไป การสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาตําแหน่งครูผู้ช่วย สังกัดสํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปี พ.ศ. 2566
1.ประกาศรับ สมัครสอบครูผู้ช่วย 66 รอบทั่วไป  : ภายในวันพุธที่ 24 พฤษภาคม 2566
2.รับสมัครสอบครูผู้ช่วย รอบทั่วไป : วันพุธที่ 31 พฤษภาคม – วันอังคารที่ 6 มิถุนายน 2566 (ไม่เว้นวันหยุดราชการ)
3.ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิสอบ ภาค ก และ ภาค ข : ภายในวันอังคารที่ 13 มิถุนายน 2566
4.ประเมินจากการสอบข้อเขียน
ภาค ก ความรู้ความสามารถทั่วไป : วันเสาร์ที่ 24 มิถุนายน 2566
ภาค ข มาตรฐานความรู้และประสบการณ์วิชาชีพ : วันอาทิตย์ที่ 25 มิถุนายน 2566z
5. ประกาศรายชื่อผู้ผ่าน ภาค ก และ ภาค ข เพื่อมีสิทธิเข้ารับการประเมิน ภาค ค : ภายในวันจันทร์ที่ 3 กรกฎาคม 2566
6. ประเมินจากการสัมภาษณ์ แฟ้มสะสมงานและการนําเสนอที่แสดงถึงทักษะและศักยภาพด้านการจัดการเรียนการสอนภาค ค ความเหมาะสมกับตําแหน่ง วิชาชีพ และการปฏิบัติงานในสถานศึกษา : ตามวันและเวลาที่ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษาหรือ อ.ก.ค.ศ. สศศ. กําหนด ( ให้แล้วเสร็จภายในเดือนกรกฎาคม 2566 )
7. ประกาศผลการสอบแข่งขัน : ตามวันและเวลาที่ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษาหรือ อ.ก.ค.ศ. สศศ. กําหนด ( ให้แล้วเสร็จภายในเดือนกรกฎาคม 2566 )

ประกาศ สอบครูผู้ช่วย66 รอบทั่วไป 2566 อ่านเพิ่มเติมที่นี่

ครูผู้ช่วย 2566 สอบอะไรบ้าง เนื้อหาที่ใช้ในการ สอบครูผู้ช่วย 2566 สังกัด สพฐ.เช็คที่นี่

ท่านสามารถ ติดตาม ประกาศรับสมัครสอบครูผู้ช่วย 2566 รอบทั่วไป สังกัด สพฐ. ทุกเขต ทุกจังหวัด ได้ที่ตาราง จังหวัดที่เปิดสอบครูผู้ช่วย 2566 ด้านล่างนี้ เขตพื้นที่การศึกษาไดที่ทำการประกาศรับ สมัครสอบครูผู้ช่วย 66 แล้ว ตัวอกษรจะเปลี่ยนเป็น สีแดง

รายชื่อสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สังกัด สพฐ. และ สำนักงานการศึกษาพิเศษ
ที่ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สังกัด สพฐ. ประกาศรับสมัครสอบ ครูผู้ช่วย ปี 2566 รอบทั่วไป สังกัด สพฐ.
1 กรุงเทพมหานคร สพป.กรุงเทพมหานคร ประกาศรับสมัครครูผู้ช่วย 2566 แล้ว
สพม.กรุงเทพมหานคร-เขต-1 ประกาศรับสมัครครูผู้ช่วย 2566 แล้ว
สพม.กรุงเทพมหานคร-เขต-2 ประกาศรับสมัครครูผู้ช่วย 2566 แล้ว
2 กระบี่ สพป.กระบี่
สพม.ตรังกระบี่ ประกาศรับสมัครครูผู้ช่วย 2566 แล้ว
3 กาญจนบุรี สพป.กาญจนบุรี เขต 1 ประกาศรับสมัครสอบครูผู้ช่วยแล้ว
สพป.กาญจนบุรี เขต 2
สพป.กาญจนบุรี เขต 3 ประกาศรับสมัครครูผู้ช่วย 2566 แล้ว
สพป.กาญจนบุรี เขต 4 ประกาศรับสมัครครูผู้ช่วย 2566 แล้ว
สพม.กาญจนบุรี
4 กาฬสินธุ์ สพป.กาฬสินธุ์ เขต 1 ประกาศรับสมัครครูผู้ช่วย 2566 แล้ว
สพป.กาฬสินธุ์ เขต 2 ประกาศรับสมัครครูผู้ช่วย 2566 แล้ว
สพป.กาฬสินธุ์ เขต 3
สพม.กาฬสินธุ์ ประกาศรับสมัครครูผู้ช่วยแล้ว
5 กำแพงเพชร สพป.กำแพงเพชร เขต 1 ประกาศรับสมัครครูผู้ช่วย 2566 แล้ว
สพป.กำแพงเพชร เขต 2 ประกาศรับสมัครครูผู้ช่วย 2566 แล้ว
สพม.กำแพงเพชร ประกาศรับสมัครสอบครูผู้ช่วย 2566 แล้ว
6 ขอนแก่น สพป.ขอนแก่น เขต 1
สพป.ขอนแก่น เขต 2
สพป.ขอนแก่น เขต 3
สพป.ขอนแก่น เขต 4
สพป.ขอนแก่น เขต 5
สพม.ขอนแก่น
7 จันทบุรี สพป.จันทบุรี เขต 1
สพป.จันทบุรี เขต 2  

สพม.จันทรบุรี ตราด
8 ฉะเชิงเทรา สพป.ฉะเชิงเทรา เขต 1
สพป.ฉะเชิงเทรา เขต 2
สพม.ฉะเชิงเทรา
9 ชลบุรี สพป.ชลบุรี เขต 1
สพป.ชลบุรี เขต 2
สพป. ชลบุรี เขต 3
สพม.ชลบุรี ระยอง
10 ชัยนาท สพป.ชัยนาท
สพม.อุทัยธานี ชัยนาท
11 ชัยภูมิ สพม.ชัยภูมิ
สพป.ชัยภูมิ เขต 1
สพป.ชัยภูมิ เขต 2
สพป.ชัยภูมิ-เขต-3
12 ชุมพร สพป.ชุมพร เขต 1
สพป.ชุมพร เขต 2
สพม.ชุมพร
13 เชียงราย สพม.เชียงราย
สพป.เชียงราย เขต 1
สพป.เชียงราย-เขต-2
สพป.เชียงราย เขต 3
สพป.เชียงราย เขต 4
14 เชียงใหม่ สพป.เชียงใหม่ เขต 1
สพป.เชียงใหม่ เขต 2
สพป.เชียงใหม่ เขต 3

สพป.เชียงใหม่ เขต 4
สพป.เชียงใหม่ เขต 5
สพป.เชียงใหม่ เขต 6
สพม.เชียงใหม่
15 ตรัง สพป.ตรัง เขต1
สพป.ตรัง เขต.2
สพม.ตรัง-กระบี่
16 ตราด สพป.ตราด
สพม.จันทรบุรี ตราด
17 ตาก สพม.ตาก
สพป.ตาก เขต 1
สพป.ตาก เขต 2
18 นครนายก สพป.นครนายก
สพม.ปราจีนบุรี นครนายก
19 นครปฐม สพป.นครปฐม เขต 1
สพป.นครปฐม เขต 2
สพม.นครปฐม
20 นครพนม สพป.นครพนม เขต 1
สพป.นครพนม เขต 2
สพม.นครพนม
21 นครราชสีมา สพป.นครราชสีมา เขต 1
สพป.นครราชสีมา เขต 2
สพป.นครราชสีมา เขต 3
สพป.นครราชสีมา เขต 4
สพป.นครราชสีมา เขต 5

สพม.นครราชสีมา
22 นครศรีธรรมราช สพป.นครศรีธรรมราช เขต 1
สพป.นครศรีธรรมราช เขต 2
สพป.นครศรีธรรมราช เขต 3
สพป.นครศรีธรรมราช เขต 4
สพม.นครศรีธรรมราช
23 นครสวรรค์ สพป.นครสวรรค์ เขต 1
สพป.นครสวรรค์ เขต 2 ประกาศรับสมัครสอบครูผู้ช่วย 2566 แล้ว
สพม.นครสวรรค์
24 นนทบุรี สพป.นนทบุรี เขต 1
สพป.นนทบุรี เขต 2
สพม.นนทบุรี
25 นราธิวาส สพป.นราธิวาส เขต 1
สพป.นราธิวาส เขต 2
สพป.นราธิวาส เขต 3

สพม.นราธิวาส
26 น่าน สพป.น่าน เขต 1
สพป.น่าน เขต 2
สพม.น่าน
27 บุรีรัมย์ สพป.บุรีรัมย์ เขต 1
สพป.บุรีรัมย์ เขต 2
สพป.บุรีรัมย์ เขต 3
สพม.บุรีรัมย์
28 บึงกาฬ สพป.บึงกาฬ
สพม.บึงกาฬ
29 ปทุมธานี สพป.ปทุมธานี เขต 1
สพป.ปทุมธานี เขต 2

สพม.ปทุมธานี
30 ประจวบคีรีขันธ์ สพป.ประจวบคีรีขันธ์ เขต 1
สพป.ประจวบคีรีขันธ์ เขต 2
สพม.ประจวบคีรีขันธ์
31 ปราจีนบุรี สพป.ปราจีนบุรี เขต 1
สพป.ปราจีนบุรี เขต 2
สพม.ปราจีนบุรี นครนายก
32 ปัตตานี สพป.ปัตตานี เขต 1
สพป.ปัตตานี เขต 2

สพป.ปัตตานี เขต 3
สพม.ปัตตานี
33 พระนครศรีอยุธยา สพป.พระนครศรีอยุธยา เขต 1
สพป.พระนครศรีอยุธยา เขต 2
สพม.พระนครศรีอยุธยา

34 พังงา สพป.พังงา
สพม.พังงา ภูเก็ต ระนอง
35 พัทลุง สพป.พัทลุง เขต 1
สพป.พัทลุง เขต 2
สพม.พัทลุง
36 พิจิตร สพป.พิจิตร เขต 1
สพป.พิจิตร เขต 2
สพม.พิจิตร
37 พิษณุโลก สพป.พิษณุโลก เขต 1
สพป.พิษณุโลก เขต 2
สพป.พิษณุโลก เขต 3
สพม.พิษณุโลก อุตรดิตถ์
 38 เพชรบุรี สพป.เพชรบุรี เขต 1
สพป.เพชรบุรี เขต 2
สพม.เพชรบุรี

 

39 เพชรบูรณ์ สพป.เพชรบูรณ์ เขต 1 ประกาศรับสมัครครูผู้ช่วยแล้ว
สพป.เพชรบูรณ์-เขต2
สพป.เพชรบูรณ์ เขต 3
สพม.เพชรบูรณ์
40 แพร่ สพป.แพร่ เขต1
สพป.แพร่ เขต 2
สพม.แพร่
41 พะเยา สพป.พะเยา เขต 1
สพป.พะเยา เขต 2
สพม.พะเยา

42 ภูเก็ต สพป.ภูเก็ต
สพม.พังงา ภูเก็ต ระนอง
43 มหาสารคาม สพป.มหาสารคาม เขต 1 ประกาศรับสมัครสอบครูผู้ช่วยแล้ว
สพป.มหาสารคาม เขต 2

สพป.มหาสารคาม เขต 3
สพม.มหาสารคาม
44 แม่ฮ่องสอน สพป.แม่ฮ่องสอน เขต 1
สพป.แม่ฮ่องสอน เขต 2

สพม.แม่ฮ่องสอน
45 มุกดาหาร สพป.-มุกดาหาร
สพม.มุกดาหาร นครพนม
46 ยะลา สพป.ยะลา เขต 1
สพป.ยะลา เขต 2
สพม.ยะลา
47 ยโสธร สพป.ยโสธร เขต 1
สพป.ยโสธร เขต 2
สพม.ศรีสะเกษ ยโสธร
48 ร้อยเอ็ด สพป.ร้อยเอ็ด เขต 1
สพป.ร้อยเอ็ด-เขต-2
สพป.ร้อยเอ็ด เขต 3
สพม.ร้อยเอ็ด ประกาศรับสมัครครูผู้ช่วยแล้ว
49 ระนอง สพป.ระนอง
สพม.พังงา ภูเก็ต ระนอง
50 ระยอง สพป.ระยอง เขต 1
สพป.ระยอง เขต.2 ประกาศรับสมัครสอบครูผู้ช่วย แล้ว
สพม.ชลบุรี ระยอง
51 ราชบุรี สพป.ราชบุรี เขต 1
สพป.ราชบุรี เขต 2
สพม.ราชบุรี
52 ลพบุรี สพป.ลพบุรี เขต 1 ประกาศรับสมัครสอบครูผู้ช่วยแล้ว
สพม.ลพบุรี ประกาศรับสมัครสอบครูผู้ช่วย 2566 แล้ว
53 ลำปาง สพป.ลำปาง เขต 1
สพป.ลำปาง-เขต-2 ประกาศรับสมัครครูผู้ช่วย 2566 แล้ว

สพป.ลำปาง เขต 3
สพม.ลำปาง ลำพูน
54 ลำพูน สพป.ลำพูน เขต 1
สพป.ลำพูน เขต 2
สพม.ลำปาง ลำพูน
55 เลย สพป.เลย เขต 1
สพป. เลย เขต 2
สพป.เลย เขต 3
สพม.เลย หนองบัวลำภู
56 ศรีสะเกษ   สพป.ศรีสะเกษ เขต 1
สพป.ศรีสะเกษ เขต 2
สพป.ศรีสะเกษ เขต 3
สพป.ศรีสะเกษ เขต 4

สพม.ศรีสะเกษ ยโสธร
57 สกลนคร สพป.สกลนคร เขต 1
สพป.สกลนคร เขต 2
สพป.สกลนคร เขต 3

สพม.สกลนคร
58 สงขลา สพป.สงขลา เขต 1
สพป.สงขลา เขต 2
สพป.สงขลา เขต 3 

สพม.สงขลา สตูล
59 สตูล สพป.สตูล ประกาศรับสมัครสอบครูผู้ช่วย 2566 แล้ว
สพม.สงขลา สตูล
60 สมุทรปราการ สพป.สมุทรปราการ เขต 1
สพป.สมุทรปราการ เขต 2
สพม.สมุทรปราการ
61 สมุทรสงคราม สพป.สมุทรสงคราม
สพม.สมุทรสาคร สมุทรสงคราม
62 สมุทรสาคร สพป.สมุทรสาคร
สพม.สมุทรสาคร สมุทรสงคราม
63 สระบุรี สพป.สระบุรี เขต 1
สพป.สระบุรี เขต 2
สพม. สระบุรี 
64 สระแก้ว สพม.สระแก้ว
สพป.สระแก้ว-เขต-1
สพป.สระแก้ว เขต 2
65 สุพรรณบุรี สพป.สุพรรณบุรี เขต 1
สพป.สุพรรณบุรี เขต 2
สพป.สุพรรณบุรี เขต 3
สพม.สุพรรณบุรี
66 สิงห์บุรี สพป.สิงห์บุรี
สพม.สิงห์บุรี อ่างทอง
67 สุโขทัย สพป.สุโขทัย เขต 1
สพป.สุโขทัย เขต 2
สพม.สุโขทัย
68 สุราษฎร์ธานี สพป.สุราษฎร์ธานี เขต 1
สพป.สุราษฎร์ธานี เขต 2
สพป.สุราษฎร์ธานี เขต 3
สพม.สุราษฎร์ธานี
69 สุรินทร์ สพป.สุรินทร์-เขต-1
สพป.สุรินทร์-เขต-2 ประกาศรับสมัครครูผู้ช่วยแล้ว
สพป.สุรินทร์-เขต-3
สพม.สุรินทร์
70 หนองคาย สพป.หนองคาย เขต 1
สพป.หนองคาย เขต 2
สพม.หนองคาย
71 หนองบัวลำภู สพป.หนองบัวลำภู เขต 1 
สพป.หนองบัวลำภู เขต 2
สพม.เลย หนองบัวลำภู
72 อ่างทอง สพป.อ่างทอง
สพม.สิงห์บุรี อ่างทอง
73 อุดรธานี สพป.อุดรธานี เขต 1
สพป.อุดรธานี เขต 2
สพป.อุดรธานี เขต 3
สพป.อุดรธานี เขต 4 ประกาศรับสมัครสอบครูผู้ช่วยแล้ว
สพม.อุดรธานี
74 อุตรดิตถ์ สพป.อุตรดิตถ์ เขต 1
สพป.อุตรดิตถ์-เขต-2
สพม.พิษณุโลก อุตรดิตถ์
75 อุทัยธานี สพป.อุทัยธานี เขต 1
สพป.อุทัยธานี เขต 2
สพม.อุทัยธานี ชัยนาท
76 อุบลราชธานี สพป.อุบลราชธานี เขต 1
สพป.อุบลราชธานี เขต 2
สพป.อุบลราชธานี เขต 3
สพป.อุบลราชธานี เขต 4
สพป.อุบลราชธานี เขต 5
สพม.อุบลราชธานี อำนาจเจริญ
77 อำนาจเจริญ สพป.อำนาจเจริญ
สพม.อุบลราชธานี อำนาจเจริญ
78 สำนักงานการศึกษาพิเศษ

ขอบคุณเนื้อหาจาก สพฐ.

เรื่องราวที่น่าสนใจเพิ่มเติม เช็คที่นี่ อัตราว่างสอบครูผู้ช่วย 2566 แต่ละ เขตพื้นที่การศึกษา แต่ละ จังหวัด 

คู่มือสอบครูผู้ช่วย 66 คู่มือการดำเนินการสอบแข่งขัน ตำแหน่งครูผู้ช่วย สังกัดสพฐ. ปีพ.ศ.2566 ดาวน์โหลดที่นี่

จรรยาบรรณวิชาชีพครู 5 ด้าน 9 ข้อ ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยจรรยาบรรณของวิชาชีพ พ.ศ. 2556

จรรยาบรรณวิชาชีพครู 5 ด้าน 9 ข้อ ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยจรรยาบรรณของวิชาชีพ พ.ศ. 2556

สวัสดีค่ะทุกท่านวันนี้ทีมงาน ครูดีดอทคอม มีเรื่องราวเกี่ยวกับ จรรยาบรรณวิชาชีพครู ที่คุณครูควรรู้ มาฝากทุกท่าน โดยทางคุรุสภา ได้ออกข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยจรรยาบรรณของวิชาชีพ พ.ศ. 2556 โดยมีรายละเอียด ดังนี้ค่ะ

จรรยาบรรณวิชาชีพครู 5 ด้าน 9 ข้อ ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยจรรยาบรรณของวิชาชีพ พ.ศ. 2556

ขอนําเสนอข้อบังคับคุรุสภาว่าด้วยจรรยาบรรณของวิชาชีพ พ.ศ. 2556 ซึ่งเป็นฉบับล่าสุด อันเป็นพื้นฐานสำคัญที่ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาทุกท่านจะต้องนําไปประพฤติปฏิบัติตนให้เหมาะสมกับการเป็นข้าราชการที่ดี ครูอัพเดตดอทคอม จึงได้นำมาให้ทุกท่านได้ศึกษาและทบทวน ดังรายละเอียดต่อไปนี้

“วิชาชีพ” หมายความว่า วิชาชีพทางการศึกษาที่ทำหน้าที่หลักทางด้านการเรียนการสอนและการส่งเสริมการเรียนรู้ของผู้เรียนด้วยวิธีการต่างๆ รวมทั้งการรับผิดชอบการบริหารสถานศึกษาในสถานศึกษาปฐมวัย ขั้นพื้นฐาน และอุดมศึกษาที่ต่ำกว่าปริญญาทั้งของรัฐและเอกชน และการบริหารการศึกษานอกสถานศึกษาในระดับเขตพื้นที่การศึกษา ตลอดจนการสนับสนุนการศึกษาให้บริการหรือปฏิบัติงานเกี่ยวเนื่องกับการจัดกระบวนการเรียนการสอน การนิเทศ และการบริหารการศึกษาในหน่วยงานการศึกษาต่าง ๆ

“ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา” หมายความว่า ครู ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้บริหารการศึกษา และบุคลากรทางการศึกษาอื่น ซึ่งได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพตามพระราชบัญญัติสภาครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2546

“ครู” หมายความว่า บุคคลซึ่งประกอบวิชาชีพหลักทางด้านการเรียนการสอนและการส่งเสริมการเรียนรู้ของผู้เรียนด้วยวิธีการต่างๆ ในสถานศึกษาปฐมวัย ขั้นพื้นฐาน และอุดมศึกษาที่ต่ำกว่าปริญญาทั้งของรัฐและเอกชน

“ผู้บริหารสถาศึกษา” หมายความว่า บุคคลซึ่งปฏิบัติงานในตำแหน่งผู้ปริหารสถานศึกษาภายในเขตพื้นที่การศึกษา และสถานศึกษาอื่นที่จัดการศึกษาปฐมวัย ขั้นพื้นฐาน และอุดมศึกษาที่ต่ำกว่าปริญญาทั้งของรัฐและเอกชน

“ผู้บริหารการศึกษา” หมายความว่า บุคคลซึ่งปฏิบัติงานในตำแหน่งผู้บริหารนอกสถานศึกษาในระดับเขตพื้นที่การศึกษา

“บุคลากรทางการศึกษาอื่น” หมายความว่า บุคคลซึ่งทำหน้าที่สนับสนุนการศึกษา ให้บริการหรือปฏิบัติงานเกี่ยวเนื่องกับการจัดกระบวนการเรียนการสอน การนิเทศ และการบริหารการศึกษาในหน่วยงานการศึกษาต่างๆ ซึ่งหน่วยงานการศึกษากำหนดตำแหน่งให้ต้องมีคุณวุฒิทางการศึกษา

“จรรยาบรรณของวิชาชีพ” หรือ จรรยาบรรณวิชาชีพครู หมายความว่า มาตรฐานการปฏิบัติตนที่กำหนดขึ้นเป็นแบบแผนในการประพฤติตน ซึ่งผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาต้องปฏิบัติตาม เพื่อรักษาและส่งเสริมเกียรติคุณชื่อเสียง และฐานะขอผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาให้เป็นที่เชื่อถือศรัทธาแก่ผู้รับบริการและสังคม อันจะนำมาซึ่งเกียรติและศักดิ์ศรีแห่งวิชาชีพ

ดาวน์โหลดสรุปเนื้อหาจรรยาบรรณวิชาชีพครู 5 หมวด 9 ข้อ จรรยาบรรณครู ที่ ครูต้องอ่าน คลิกที่นี่ 

จรรยาบรรณวิชาชีพครู 5 ด้าน 9 ข้อ ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยจรรยาบรรณของวิชาชีพ พ.ศ. 2556
 

โดยข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาทุกท่าน ถือว่าเป็นผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ต้องประพฤติตนตามจรรยาบรรณของวิชาชีพ หรือ จรรยาบรรณวิชาชีพครู และแบบแผนพฤติกรรมตามจรรยาบรรณของวิชาชีพ ซึ่งมีทั้งหมด 5 หมวด 9 ข้อ ดังนี้

หมวด 1 จรรยาบรรณต่อตนเอง
ข้อ 1 ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ต้องมีวินัยในตนเอง พัฒนาตนเองด้านวิชาชีพบุคลิกภาพ และวิสัยทัศน์ ให้ทันต่อการพัฒนาทางวิทยาการ เศรษฐกิจ สังคม และการเมืองอยู่เสมอ

หมวด 2 จรรยาบรรณต่อวิชาชีพ
ข้อ 2 ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ต้องรัก ศรัทธา ซื่อสัตย์สุจริต รับผิดชอบต่อวิชาชีพ และเป็นสมาชิกที่ดีขององค์กรวิชาชีพ

หมวด 3 จรรยาบรรณต่อผู้รับบริการ
ข้อ 3 ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ต้องรัก เมตตา เอาใจใส่ ช่วยเหลือ ส่งเสริม ให้กำลังใจแก่ศิษย์ และผู้รับบริการ ตามบทบาทหน้าที่โดยเสมอหน้า

ข้อ 4 ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ต้องส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้ ทักษะ และนิสัยที่ถูกต้องดีงามแก่ศิษย์ และผู้รับบริการ ตามบทบาทหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ ด้วยความบริสุทธิ์ใจ

ข้อ 5 ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ต้องประพฤติปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดี ทั้งทางกาย วาจา และจิตใจ

ข้อ 6 ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ต้องไม่กระทำตนเป็นปฏิปักษ์ต่อความเจริญทางกาย สติปัญญา จิตใจ อารมณ์ และสังคมของศิษย์ และผู้รับบริการ

ข้อ 7 ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ต้องให้บริการด้วยความจริงใจและเสมอภาค โดยไม่เรียกรับ หรือยอมรับผลประโยชน์จากการใช้ตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบ

หมวด 4 จรรยาบรรณต่อผู้ร่วมประกอบวิชาชีพ
ข้อ 8 ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา พึงช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกันอย่างสร้างสรรค์ โดยยึดมั่นในระบบคุณธรรม สร้างความสามัคคีในหมู่คณะ

หมวด 5 จรรยาบรรณต่อสังคม
ข้อ 9 ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา พึงประพฤติปฏิบัติตนเป็นผู้นำในการอนุรักษ์ และพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม ศาสนา ศิลปวัฒนธรรม ภูมิปัญญา สิ่งแวดล้อม รักษาผลประโยชน์ของส่วนรวม และยึดมั่นในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

ดาวน์โหลดสรุปเนื้อหาจรรยาบรรณวิชาชีพครู 5 หมวด 9 ข้อ จรรยาบรรณครู ที่ ครูต้องอ่าน คลิกที่นี่ 

ขอขอบคุณเนื้อหาจาก คุรุสภา

เรื่องราวที่เกี่ยงข้อง จรรยาบรรณ วิชาชีพครู สรุปเนื้อหาจรรยาบรรณวิชาชีพครู 5 หมวด 9 ข้อ จรรยาบรรณครู ที่ ครูต้องอ่าน

เช็คที่นี่ การเบิกค่าเล่าเรียนบุตร 2566 โดย กระทรวงการคลัง ต้องทำอย่างไร เบิกได้เท่าไหร่ ใช้หลักฐานอะไรบ้าง

เช็คที่นี่ การเบิกค่าเล่าเรียนบุตร 2566 โดย กระทรวงการคลัง ต้องทำอย่างไร เบิกได้เท่าไหร่ ใช้หลักฐานอะไรบ้าง

วันนี้ ครูดีดอทคอม เรื่องราวเกี่ยวกับ การเบิกค่าเล่าเรียนบุตร 2566 ว่า เบิกได้เท่าไหร่ ต้องทำอย่างไร ใช้หลักฐานอะไรบ้าง มาฝากข้าราชการ ครู และข้าราชการอื่น ค่ะ

เช็คที่นี่ การเบิกค่าเล่าเรียนบุตร 2566 โดย กระทรวงการคลัง ต้องทำอย่างไร เบิกได้เท่าไหร่ ใช้หลักฐานอะไรบ้าง

เงินสวัสดิการเกี่ยวกับการศึกษาของบุตร หมายถึง เงินที่ทางราชการช่วยเหลือเกี่ยวกับ ค่าใช้จ่ายในการศึกษาสําหรับบุตรของข้าราชการ ข้าราชการบํานาญ และลูกจ้างประจํา ได้แก่
1. ข้าราชการหรือลูกจ้างประจํา ซึ่งรับเงินเดือนหรือค่าจ้างจากเงินงบประมาณ รายจ่ายหมวด เงินเดือนหรือค่าจ้างประจําของกระทรวง กรม ยกเว้น ข้าราชการการเมือง ข้าราชการตํารวจชั้นพลตํารวจที่อยู่ระหว่างเข้ารับการอบรมในสถานศึกษาของกรมตํารวจซึ่งเป็นการศึกษาอบรมก่อนเข้าปฏิบัติราชการประจํา ลูกจ้างชาวต่างประเทศซึ่งมีหนังสือสัญญาจ้าง
2. ผู้ได้รับบํานาญปกติหรือผู้ได้รับบํานาญพิเศษเหตุทุพพลภาพ ตามกฎหมายว่าด้วยบําเหน็จ บํานาญข้าราชการ และทหารกองหนุนมีเบี้ยหวัดตามข้อบังคับกระทรวงกลาโหมว่าด้วยเงินเบี้ยหวัด

เรื่องราวที่เกี่ยวข้อง อัตราเบิกค่าเล่าเรียนบุตร ข้าราชการ 2566 เบิกได้เท่าไหร่ ใช้หลักฐานอะไร ตรรวสอบอัตราเบิกค่าเล่าเรียนบุตร คลิกที่นี่

บุตร หมายความว่า บุตรโดยชอบด้วยกฎหมายซึ่งมีอายุครบ 3 ปีแต่ไม่เกิน 25 ปี ทั้งนี้ ไม่รวมถึงบุตรบุญธรรมและบุตรซึ่งบิดามารดาได้ยกให้เป็นบุตรบุญธรรมของผู้อื่น บุตรที่มีสิทธิได้รับการช่วยเหลือเกี่ยวกับเงินการศึกษาของบุตร ได้แก่ บุตรคนที่ 1 ถึงคนที่ 3 โดยนับเรียงตามลําดับเกิดก่อนหลัง ทั้งนี้ ไม่ว่าเป็นบุตรที่เกิดจากการ สมรสครั้งใด หรืออยู่ในอํานาจปกครองของตนหรือไม่

*กรณีผู้มีสิทธิผู้ใดยังไม่มีบุตรหรือมีบุตรที่มีสิทธิได้รับเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการศึกษาบุตรยังไม่ครบ 3 คน ต่อมามีบุตรแฝดทําให้จํานวนบุตรเกิน 3 คน ให้ผู้นั้นมีสิทธิได้รับสวัสดิการสําหรับบุตรคนที่ 1 ถึงคนสุดท้าย แต่บุตรแฝดดังกล่าวจะต้องเป็นบุตรซึ่งเกิดจากคู่สมรส หรือเป็นบุตรของตนเองในกรณีที่หญิง เป็นผู้ใช้สิทธิ

บุตรที่เกินกว่า 3 คน แต่ในจํานวน 3 คนนั้น ถ้าตาย กายพิการหรือเป็นคนไร้ความสามารถ วิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบก่อนอายุครบ 25 ปีบริบูรณ์ ให้เอาบุตรลําดับต่อไปนํามาเบิกได้ให้ครบ 3 คน อย่างเดิม จนกว่าจะหมดสิทธิ

เช็คที่นี่ การเบิกค่าเล่าเรียนบุตร 2566 โดย กระทรวงการคลัง ต้องทำอย่างไร เบิกได้เท่าไหร่ ใช้หลักฐานอะไรบ้าง
เช็คที่นี่ การเบิกค่าเล่าเรียนบุตร2566 โดย กระทรวงการคลัง ต้องทำอย่างไร เบิกได้เท่าไหร่ ใช้หลักฐานอะไรบ้าง

อัตราการเบิกค่าเล่าเรียนบุตร การเบิกค่าเล่าเรียนบุตร โดย กระทรวงการคลัง เบิกได้เท่าไหร่ รายละเอียด เบิกค่าเล่าเรียนบุตร 2566 ข้างล่างนี้ค่ะ

เช็คที่นี่ การเบิกค่าเล่าเรียนบุตร 2566 โดย กระทรวงการคลัง ต้องทำอย่างไร เบิกได้เท่าไหร่ ใช้หลักฐานอะไรบ้าง
เช็คที่นี่ การเบิกค่าเล่าเรียนบุตร2566 โดย กระทรวงการคลัง ต้องทำอย่างไร เบิกได้เท่าไหร่ ใช้หลักฐานอะไรบ้าง
เช็คที่นี่ การเบิกค่าเล่าเรียนบุตร 2566 โดย กระทรวงการคลัง ต้องทำอย่างไร เบิกได้เท่าไหร่ ใช้หลักฐานอะไรบ้าง
เช็คที่นี่ การเบิกค่าเล่าเรียนบุตร2566 โดย กระทรวงการคลัง ต้องทำอย่างไร เบิกได้เท่าไหร่ ใช้หลักฐานอะไรบ้าง

เอกสารเบิกค่าเล่าเรียนบุตร ข้าราชการ 2566 การเบิกค่าเล่าเรียนบุตร โดย กระทรวงการคลัง ใช้หลักฐานอะไรบ้าง รายละเอียดข้องล่างนี้ค่ะ ทั้งนี้ให้เช็ครายละเอียด กับต้นสังกัดอีกรอบค่ะ
หลักฐาน/เอกสารที่ใช้เบิกจ่าย
1. ใบเบิกเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการศึกษาของบุตร (แบบ 7223)
2. ใบเสร็จรับเงินจากสถานศึกษา
3. สําเนาใบอนุญาตของกระทรวงศึกษาธิการ กรณีเป็น สถานศึกษาเอกชน
4. หลักฐานแยกกันอยู่ (แบบ บก.ชล.8) กรณีไม่ประสงค์จะอยู่ ร่วมกันฉันท์สามีภรรยา
5. หนังสือแจ้งการใช้สิทธิและหนังสือตอบรับการแจ้งการใช้ สิทธิ (กรณีใช้สิทธิ์ภรรยา)
6. สําเนาหนังสือสําคัญแสดงการรับรองบุตรกรณีไม่ได้จดทะเบียนสมรส

ดาวน์โหลด ใบเบิกเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการศึกษาของบุตร (แบบ 7223) ได้ที่นี่

ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม การเบิกค่าเล่าเรียนบุตร โดย กระทรวงการคลัง คลิกที่นี่

เช็คที่นี่ การเบิกค่าเล่าเรียนบุตร 2566 โดย กระทรวงการคลัง ต้องทำอย่างไร เบิกได้เท่าไหร่ ใช้หลักฐานอะไรบ้าง
เช็คที่นี่ การเบิกค่าเล่าเรียนบุตร2566 โดย กระทรวงการคลัง ต้องทำอย่างไร เบิกได้เท่าไหร่ ใช้หลักฐานอะไรบ้าง
เช็คที่นี่ การเบิกค่าเล่าเรียนบุตร2566 โดย กระทรวงการคลัง ต้องทำอย่างไร เบิกได้เท่าไหร่ ใช้หลักฐานอะไรบ้าง
เช็คที่นี่ การเบิกค่าเล่าเรียนบุตร2566 โดย กระทรวงการคลัง ต้องทำอย่างไร เบิกได้เท่าไหร่ ใช้หลักฐานอะไรบ้าง

ขอบคุณเนื้อหาจาก กระทรวงการคลัง

เรื่องราวที่น่าสนใจเพิ่มเติม ตัวอย่าง หลักฐานการจ่ายเงินค่าอุปกรณ์การเรียน 2566 ค่าเครื่องแบบนักเรียน แบบฟอร์มการจ่ายค่าอุปกรณ์การเรียน ค่าเครื่องแบบนักเรียน ไฟล์ word แก้ไขได้

คำศัพท์ภาษาอังกฤษ ม.1 – 3 รวมคําศัพท์ภาษาอังกฤษพื้นฐาน ระดับชั้นมัธยมศึกษา ตอนต้น ไฟล์ Pdf. ดาวน์โหลดที่นี่

คำศัพท์ภาษาอังกฤษ ม.1 – 3 รวมคําศัพท์ภาษาอังกฤษพื้นฐาน ระดับชั้นมัธยมศึกษา ตอนต้น ไฟล์ Pdf. ดาวน์โหลดที่นี่

สวัสดีค่ะทุกท่านวันนี้ทีมงาน ครูดีดอทคอม มีเรื่องราวเกี่ยวกับ คำศัพท์ภาษาอังกฤษ ม.1 – 3มาให้ทุกท่านได้ใช้เป็นส่วนหนึ่งในการฝึกนักเรียนในปีการศึกษา 2566 (พ.ศ.2566-2567) ท่านสามารถดาวน์โหลดคําศัพท์ภาษาอังกฤษพื้นฐาน ระดับชั้นมัธยมศึกษา ดังนี้ค่ะ

คำศัพท์ภาษาอังกฤษ ม.1 - 3 รวมคําศัพท์ภาษาอังกฤษพื้นฐาน ระดับชั้นมัธยมศึกษา ตอนต้น ไฟล์ Pdf. ดาวน์โหลดที่นี่

ตามที่หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ได้กําหนดมาตรฐาน ตัวชี้วัดและ สาระการเรียนรู้แกนกลางในแต่ละระดับชั้น โดยในกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ สถานศึกษาจะต้อง ดําเนินการจัดการเรียนการสอนเพื่อให้นักเรียนมีพัฒนาการตามมาตรฐานที่กําหนดไว้ และมีความรู้ ความสามารถตามตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลางของแต่ละมาตรฐานตามที่กําหนดของแต่ละระดับชั้น

หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ได้กําหนดวงคําศัพท์ที่นักเรียนระดับชั้น ประถมศึกษา แต่ละระดับควรรู้ไว้ดังนี้

ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ภายในวงคําศัพท์ประมาณ 150-200 คํา (คําศัพท์ที่เป็นรูปธรรม)
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ภายในวงคําศัพท์ประมาณ 250-300 คํา (คําศัพท์ที่เป็นรูปธรรม)
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ภายในวงคําศัพท์ประมาณ 350-450 คํา (คําศัพท์ที่เป็นรูปธรรม)
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ภายในวงคําศัพท์ประมาณ 550-700 คํา (คําศัพท์ที่เป็นรูปธรรม)
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ภายในวงคําศัพท์ประมาณ 750-950 คํา (คําศัพท์ที่เป็นรูปธรรม)
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ภายในวงคําศัพท์ประมาณ 1,050-1,200 คํา (คําศัพท์ที่เป็นรูปธรรม)

นอกจากนี้ยังมีการกําหนดคุณภาพผู้เรียนเมื่อจบแต่ละช่วงชั้น โดยในด้านการเรียนรู้เรื่องคําศัพท์ กําหนดให้ ผู้เรียนที่จบระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีความรู้วงคําศัพท์ประมาณ 300 – 450 คํา เน้นคําศัพท์ที่เป็น รูปธรรม ผู้เรียนที่จบระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีความรู้วงคําศัพท์ประมาณ 1,050 – 1,200 คํา เน้นคําศัพท์ ที่เป็นรูปธรรมและนามธรรม และผู้เรียนที่จบระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีความรู้วงคําศัพท์ประมาณ 2,100 2,250 คํา เน้นคําศัพท์ที่เป็นนามธรรมมากขึ้น

ดาวน์โหลดคำศัพท์ภาษาอังกฤษ ม.1 – 3 รวมคําศัพท์ภาษาอังกฤษพื้นฐาน ระดับชั้นมัธยมศึกษา ตอนต้น ไฟล์ Pdf. คลิกที่นี่

คำศัพท์ภาษาอังกฤษ ม.1 - 3 รวมคําศัพท์ภาษาอังกฤษพื้นฐาน ระดับชั้นมัธยมศึกษา ตอนต้น ไฟล์ Pdf. ดาวน์โหลดที่นี่

คำศัพท์ภาษาอังกฤษ ม.1 - 3 รวมคําศัพท์ภาษาอังกฤษพื้นฐาน ระดับชั้นมัธยมศึกษา ตอนต้น ไฟล์ Pdf. ดาวน์โหลดที่นี่

ดาวน์โหลดคำศัพท์ภาษาอังกฤษ ม.1 – 3 รวมคําศัพท์ภาษาอังกฤษพื้นฐาน ระดับชั้นมัธยมศึกษา ตอนต้น ไฟล์ Pdf. คลิกที่นี่

ขอบคุณข้อมูลจาก สพป.แพร่ 2

เรื่องราวที่เกี่ยวข้อง คลิกที่นี่ คำศัพท์ภาษาอังกฤษ ป.1 – 6 รวมคําศัพท์ภาษาอังกฤษพื้นฐาน ระดับชั้นประถมศึกษา ไฟล์ Pdf. ดาวน์โหลดที่นี่